วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สัมภเวสี และภพ

ฮือฮาข่าวถ่ายภาพติดวิญญาณ  มีปรากฏรายละเอียดในข่าวสดดังนี้

ผู้สื่อข่าวติดตามจนพบตัวผู้ถ่ายภาพ คือ นายสุชาติ เข็มทอง อายุ 35 ปี เป็นช่างสัก อยู่บ้านเลขที่ 65/76 หมู่บ้านธารทองวิลล่า ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หมู่ 1 ต.วิชิต โดยนายสุชาติกล่าวว่า ใช้มือถือยี่ห้อโนเกีย 2630 ถ่ายไว้ก่อนปีใหม่ 2-3 วัน วันนั้นตนนั่งรถไปกับเพื่อนคันที่พุ่งชนเข้าไปในร้านอาหารอิสลามอดัม เมื่อรถเสียหลักพุ่งชนเข้าไปในร้านและพลิกหงายท้อง ตนไม่เป็นอะไร คลานออกมาจากรถแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพไว้ 1 รูป โดยไม่สนใจอะไร เพราะต้องรีบนำเพื่อนซึ่งเป็นคนขับไปส่งโรงพยาบาล

"รุ่งขึ้นอีกวันผมนำมือถือมาดู ถึงกับตกใจเพราะมีภาพคนสวมชุดโบราณโผล่ขึ้นมากลางภาพ ทั้งที่ตอนถ่ายไม่มีใครเดินผ่านเลย ส่วนตัวแล้วผมไม่อยากให้มองเป็นเรื่องภูติผีวิญญาณอะไร แต่เพื่อนๆ ที่ทราบข่าวมาดูต่างก็ลงความเห็นและเชื่อว่าเป็นภาพวิญญาณ ขอให้ผมส่งภาพไปให้ทางโทร.มือถือหลายราย แต่ผมก็มานึกในแง่ดีว่าหากเป็นภาพวิญญาณจริงเขาคงมาในลักษณะช่วยเหลือพวกผม เพราะอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเสียหลักชนเข้าไปในร้านจนสภาพรถพังยับเยิน แต่ผมไม่เป็นอะไร เพื่อนที่เป็นคนขับก็บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ผมขอยืนยันว่าไม่มีการตกแต่งภาพถ่ายใดๆ ทั้งสิ้น"นายสุชาติกล่าว

นายแดง เกสโร ชาวบ้าน ซึ่งมาร่วมในพิธีทำบุญ กล่าวว่า เมื่อดูภาพถ่ายแล้วเชื่อว่าเป็นภาพถ่ายวิญญาณร้อยเปอร์เซ็นต์  ภาพที่ปรากฏเป็นภาพคนอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป แต่งกายคล้ายคนโบราณ เชื่อว่าเป็นวิญญาณที่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ จึงมาปรากฏให้เห็นเพื่อขอส่วนบุญ ท่านจะได้ไปผุดไปเกิดเสียที ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตนเชื่อเป็นภาพถ่ายวิญญาณแน่นอน...

หากยืนยันว่า เป็นภาพถ่ายออริจินัลจากกล้องมือถือ ฟันธงคำตอบเลยว่า สิ่งที่ปรากฏในภาพถ่ายนี้คือ สัมภเวสี  ซึงหมายถึง ผู้แสวงหาภพ? (แต่หากฟันธงผิด หมอลักษณ์ต้องรับผิดชอบ อ้าว)
ภพ โลกเป็นที่อยู่ของสัตว์, ภาวะชีวิตของสัตว์ มี ๓ คือ
       ๑. กามภพ ภพของผู้ยังเสวยกามคุณ
       ๒. รูปภพ ภพของผู้เข้าถึงรูปฌาน
       ๓. อรูปภพ ภพของผู้เข้าถึงอรูปฌาน

โดยองค์ความรู้ในพุทธธรรม จำแนกภพออกเป็น 31 ภพ มี สัตว์นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน และมนุษย์รวมเป็น 5 ภพ ภพในสวรรค์อีก 6 ภพ พรหมโลกแบบรูปพรหมอีก 16 ภพ(รวมสุทธาวาสในนี้ด้วย) และ พรหมโลกแบบอรูปพรหมอีก 4 ภพ รวมทั้งหมดครบ 31 ภพ

นั่นคือว่า ปราฏการณ์เหนือธรรมชาติเกี่ยวกับเปรต สัตว์นรก สัมภเวสี ฯลฯ รวมถึงเทวดา พระพรหม ฯลฯ พุทธรรมมีคำอธิบายละเอียดที่สุดเท่าที่ศาสนาบนโลกนี้จะกล่าวถึงได้..เพราะเป็นองค์ความรู้แบบรู้แจ้งที่เกิดจากโพธิญาณนั่นแล

แถมเกร็ดความรู้จากเกจิอาจารย์

เดินเข้ามาดูบนดินแดนของมนุษย์ ภาพข้างหน้าเกลื่อนกล่นไปด้วยผี บรรดาผีทั้งหลายนี่เราเรียกกันว่า
อสุรกายบ้าง สัมภเวสีบ้าง...เอาละ  บรรดาท่านพุทธบริษัท  เรื่องนี้รับฟังไว้แล้วก็ควรจะฟังต่อสักนิดว่า  ถ้าญาติของเราตาย  ตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี  คือไม่สิ้นอายุ  ฟ้าผ่าตาย  สุนัขกัดตาย  มดกัดตาย ยุงกัดตาย  คลอดบุตรตาย  ถูกฆ่าตาย  ถูกยิงตาย  รถชนตาย  แต่ก็ไม่แน่นักนะ  บรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่เผื่อเหนี่ยวไว้ก่อน สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่าให้มีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักหนึ่งฟอง เมื่อทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ถ้าทำอย่างนี้ละท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบเมื่อเข้าถึงอายุขัย เมื่อใดก็เป็นอันว่าพวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน..
 
พวกนี้-สัมภเวสี-ตายแล้ว...บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่เขาทำยังไม่ให้ผล ...มีสภาพเหมือนกับคนออกจากบ้านนี้แล้วเข้าบ้านโน้นไม่ได้ จะกลับเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาไม่ใช่ว่าแบบหนุ่มเจ้าสำราญนะ เดินแบบลำบาก หาอะไรกินไม่ได้ ผีประเภทนี้เราเรียกกันว่าสัมภเวสี แปลว่าพวกแสวงหาที่เกิด หมายความว่าแสวงหาที่อยู่แน่นอน บรรดาคนที่ตายในสภาพนี้ ที่บรรดาหมอผีทั้งหลายชอบเรียกเอาไปเลี้ยงก็เพราะว่าเขาเป็นคนหิว เขาไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหารเป็นเครื่องบริโภค ในเมื่อสภาพของเขาเป็นคนหิวแบบนี้แล้วใครชวนก็ไป ก็แบบเดียวกับเรา เราก็เหมือนกัน เมื่อที่อยู่ไม่มี ใครชวนไปอยู่ด้วยก็ไป ไปทำไม? ไปเพื่อประทังชีวิตให้มีความสุข พวกนี้ต้องการเครื่องเซ่นสรวงบูชา แล้วสำหรับคนที่ตายประเภทนี้ ที่หมอเขาบอกว่าสะเดาะเคราะห์ได้จะไม่ตาย นี่เป็นความจริงเพราะว่ากรรมที่กระทำให้พวกเขาตาย เรียกว่าอุปฆาตกรรม กรรมเข้ามาตัดรอนในระหว่างอายุขัย ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะต้องตาย แต่ถ้าหากว่า เราทำความดีอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะเป็นการชดเชยกับความชั่วที่จะเข้ามาริดรอนเสียได้ อายุเข้าก็จะยืนต่อไป ที่เรียกกันว่าการต่ออายุ แต่ทว่าการต่ออายุนี่ต้องระวังนะ ส่วนใหญ่ที่เคยได้ฟังมา มันเป็นการต่ออายุหมอไป หมอที่ทำพิธีน่ะ ได้รับการต่ออายุหมดเคราะห์ แต่ว่าคนที่เข้าไปสะเดาะเคราะห์กลับเพิ่มเคราะห์เข้ามาอีก ทั้งนี้เพราะอะไร? เพราะเชื่อหมอนี่ หมอบอกว่า ถ้าไม่ทำละก้อ ต้องตายเมื่อนั้นเมื่อนี่ ถ้าทำเสียแล้วจะมีความดี หมอก็ตั้งราคาไว้สูง จะต้องหาเงินให้หมดเป็นพันเป็นหมื่น พิธีกรรมก็มากมายถ้าทำไปแล้ว ถ้าไม่ถูกพิธีกรรม การสะเดาะเคราะห์นั้นไม่มีผล แต่เราต้องเสียสตางค์ เราเสียสตางค์ก็ชื่อว่าเพิ่มเคราะห์เข้ามา สำหรับหมอ หมดเคราะห์ไป เราเสียไปให้พันบาท เรื่องการสะเดาะเคราะห์ คือเป็นการต่ออายุ แบบนี้ระวัง ระวังต้องให้พอเหมาะพอดีกับกฎของกรรม ถ้าจะทำกันให้ถูกจริงๆ ละก็ ไปหาพระที่ท่านได้ทิพยจักขุญาณ หรือว่าอตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ความจริงมันก็ไม่ต่างกัน ได้ทิพยจักขุญาณอย่างเดียวเท่านั้นเหละมันก็ได้ทั้งหมด อ้างในhttp://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=129

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น